ทำไมถึงพูดว่า “สามคำแนะนำ” ไม่ได้? มาทำความเข้าใจคำนามนับได้และนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษง่ายๆ ด้วยแนวคิดแบบเดินซูเปอร์มาร์เก็ต

แชร์บทความ
เวลาอ่านโดยประมาณ 5–8 นาที

ทำไมถึงพูดว่า “สามคำแนะนำ” ไม่ได้? มาทำความเข้าใจคำนามนับได้และนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษง่ายๆ ด้วยแนวคิดแบบเดินซูเปอร์มาร์เก็ต

เวลาเรียนภาษาอังกฤษ คุณเคยเจอสถานการณ์ที่ทำให้คุณต้องขมวดคิ้วแบบนี้ไหม:

พูดว่า “three dogs” (สุนัขสามตัว) ได้ แต่กลับพูดว่า “three advices” (สามคำแนะนำ) ไม่ได้? พูดว่า “two books” (หนังสือสองเล่ม) ได้ แต่กลับพูดว่า “two furnitures” (เฟอร์นิเจอร์สองชิ้น) ไม่ได้?

กฎของคำนาม “นับได้” และ “นับไม่ได้” เหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกฎแปลกๆ ที่ต้องท่องจำ ทำให้หลายคนปวดหัวอยู่บ่อยๆ

แต่ถ้าฉันบอกว่า จริงๆ แล้วเบื้องหลังสิ่งเหล่านี้มีตรรกะที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติซ่อนอยู่ล่ะ? ลืมคำศัพท์ไวยากรณ์ที่ซับซ้อนไปได้เลย เราแค่ต้องคิดเหมือนกับการเดินซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้นเอง

ในรถเข็นของคุณ ของที่หยิบคือ “หยิบทีละชิ้น” หรือ “หยิบทั้งชุด”?

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตโดยพื้นฐานแล้วสามารถแบ่งวิธีการหยิบได้สองแบบ:

1. สินค้าที่นับเป็นชิ้นได้ (คำนามนับได้)

บนชั้นวางของ บางอย่างคุณสามารถหยิบด้วยมือได้โดยตรง นับเป็นหนึ่ง สอง สาม แล้วใส่ลงในรถเข็นได้เลย

  • แอปเปิล (apple): คุณสามารถหยิบ an apple (แอปเปิลหนึ่งผล) หรือ three apples (แอปเปิลสามผล) ได้
  • บ้าน (house): คุณสามารถมี a house (บ้านหนึ่งหลัง) ได้
  • เพื่อน (friend): คุณสามารถถามว่า “How many friends do you have?” (คุณมีเพื่อนกี่คน?)

สิ่งเหล่านี้คือ คำนามนับได้ ซึ่งมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์ สามารถนับจำนวนได้โดยตรง เหมือนกับสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตที่สามารถนับเป็นชิ้นๆ ได้อย่างชัดเจน

2. สินค้าที่นับเป็นปริมาณ/หน่วยรวม (คำนามนับไม่ได้)

ตอนนี้คุณเดินมาถึงอีกโซนหนึ่งแล้ว ของที่นี่คุณไม่สามารถหยิบเป็นชิ้นๆ ได้

  • น้ำ (water): คุณไม่สามารถพูดว่า “ขอน้ำสามบ่อ” ได้ แต่จะพูดว่า “ขอ a bottle of water” (น้ำหนึ่งขวด) หรือ “some water” (น้ำจำนวนหนึ่ง)
  • ข้าว (rice): คุณจะไม่ได้นับข้าวทีละเม็ด แต่จะพูดว่า “a bag of rice” (ข้าวหนึ่งถุง)
  • น้ำตาล (sugar): คุณจะใช้คำว่า “a spoonful of sugar” (น้ำตาลหนึ่งช้อน)

สิ่งเหล่านี้คือ คำนามนับไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วจะถูกมองว่าเป็นหน่วยรวม เป็นก้อน หรือเป็นสสาร เช่น ของเหลว ผง ก๊าซ หรือแนวคิดนามธรรม (เช่น knowledge ความรู้, love ความรัก)

เนื่องจากไม่สามารถนับเป็นชิ้นๆ ได้ จึงมักไม่มีรูปพหูพจน์ (คุณจะไม่พูดว่า waters หรือ rices) และเมื่อต้องการถามปริมาณ เราจะใช้ “How much...?”

  • How much water do you need? (คุณต้องการน้ำเท่าไหร่?)
  • He gave me a lot of advice. (เขาให้คำแนะนำกับฉันมากมาย)

“สินค้าพิเศษ” ในซูเปอร์มาร์เก็ตภาษาอังกฤษ

เอาล่ะ มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดแล้ว บางอย่างใน “ซูเปอร์มาร์เก็ต” ภาษาจีนของเรา เราคุ้นเคยกับการนับเป็นชิ้นๆ แต่ใน “ซูเปอร์มาร์เก็ต” ภาษาอังกฤษ กลับถูกจัดอยู่ในหมวด “ขายรวมเป็นชุด”

นี่แหละคือส่วนที่เราสับสนกันจริงๆ จำ “สินค้าพิเศษ” ที่พบบ่อยที่สุดเหล่านี้ไว้:

  • advice (คำแนะนำ)
  • information (ข้อมูล)
  • furniture (เฟอร์นิเจอร์)
  • bread (ขนมปัง)
  • news (ข่าว)
  • traffic (การจราจร)
  • work (งาน)

ในตรรกะของภาษาอังกฤษ advice และ information ก็เหมือนน้ำ ที่เป็นของเหลว ไหลเป็นผืนเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถพูดว่า “an advice” ได้ แต่ต้องพูดว่า “a piece of advice” (คำแนะนำหนึ่งชิ้น) ส่วน furniture เป็นแนวคิดแบบรวมกลุ่มที่ประกอบด้วยโต๊ะ เก้าอี้ เตียง ดังนั้นตัวมันเองจึงนับไม่ได้

อีกตัวอย่างหนึ่งที่คลาสสิกคือ hair (ผม) เมื่อ hair หมายถึงผมทั้งหมดบนศีรษะของคุณ มันก็เหมือนข้าว คือเป็นหน่วยรวม นับไม่ได้

She has beautiful long hair. (เธอมีผมยาวสวย)

แต่ถ้าคุณเจอเส้นผมในซุป ตอนนี้มันก็กลายเป็น “หนึ่งเส้น” ที่สามารถแยกออกมาได้ ซึ่งนับได้

I found a hair in my soup! (ฉันเจอเส้นผมหนึ่งเส้นในซุป!)

อย่าให้กฎไวยากรณ์ มาขวางกั้นความกระหายในการสื่อสารของคุณ

เมื่อเข้าใจตรรกะแบบ “เดินซูเปอร์มาร์เก็ต” แล้ว คำนามนับได้และนับไม่ได้ก็ดูเป็นมิตรมากขึ้นในทันทีใช่ไหม?

ตรรกะนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ได้ถึง 80% แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาษาคือการสื่อสาร ไม่ใช่เพื่อสอบไวยากรณ์ให้ผ่าน ในการสนทนาจริง สิ่งที่เรากลัวที่สุดไม่ใช่การทำผิดเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการไม่กล้าพูดเพราะกลัวความผิดพลาด

จะดีแค่ไหนถ้ามีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ในระหว่างการสนทนา แต่สามารถมุ่งเน้นไปที่การแสดงออกถึงตัวตนได้อย่างเต็มที่?

นี่คือสิ่งที่แอปแชท Intent ต้องการแก้ไข ด้วยระบบแปลภาษา AI อันทรงพลังในตัว เมื่อคุณแชทกับเพื่อนจากทั่วทุกมุมโลก มันสามารถช่วยแก้ไขภาษาของคุณให้เป็นธรรมชาติและเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้นได้ทันที คุณสามารถพิมพ์ได้อย่างอิสระ Intent จะทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยที่ฉลาด เพื่อให้มั่นใจว่าความหมายของคุณจะถูกถ่ายทอดได้อย่างแม่นยำ

แทนที่จะดิ้นรนอยู่กับกฎไวยากรณ์ ลองเริ่มต้นการสนทนาโดยตรงเลยดีกว่า

ดังนั้น ครั้งต่อไปเมื่อเจอคำนาม ลองถามตัวเองดูว่า: ของสิ่งนี้ในซูเปอร์มาร์เก็ตภาษาอังกฤษ เขาขายเป็น “ชิ้น” หรือขายเป็น “ปริมาณ/ชุด”? การเปลี่ยนวิธีคิดเล็กๆ น้อยๆ นี้จะทำให้เส้นทางการเรียนภาษาอังกฤษของคุณเปิดกว้างขึ้นมาก

และเมื่อคุณพร้อมที่จะสนทนากับโลก Intent จะเป็นคู่หูที่ดีที่สุดที่จะช่วยขจัดอุปสรรคและสื่อสารได้อย่างมั่นใจ